dot
การชำระเงิน และ ยืนยันการใช้บริการ
dot
bulletประเภท ขายสด
bulletประเภท ขายเชื่อ
dot
ตรวจสอบค่าบริการ !!
dot
bulletค่าบริการ ส่งเอกสาร รายชิ้น
dot
Messenger Service !!
dot
bulletMessenger : Pay per Trip!!
bulletMessenger : Pay per Day !!
bulletMessenger : Pay per Month!!
dot
ติชม ร้องเรียน ร้องทุกข์
dot
bulletติชม ร้องเรียน การทำงาน
dot
Website แนะนำ
dot
bulletแมสเซ็นเจอร์ รายเดือน
bulletอุปกรณป้องกันตัว ผู้หญิง
bulletรับสมัครงาน แมสเซ็นเจอร์
bulletรับสมัครงาน ช่างแอร์
bulletยาสมุนไพรจีน ยาสมุนไพร
bulletล้างแอร์ ช่างแอร์
bulletโปรแกรมเงินเดือน Excel


Messenger พนักงานส่งเอกสาร


รายการกลยุทธ์ธุรกิจ (30/05/2559) article

 รายการ กลยุทธ์ธุรกิจ

หนุ่มน้อย ผู้ก่อตั้ง 2ธุรกิจ Outsource

Shipyours : คลังสินค้าออนไลน์ เจ้าแรกของไทย
และ OF Messenger : บริษัทแมสเซ็นเจอร์ ยอดขาย100ล้าน

รายการกลยุทธ์ธุรกิจ กับ อ.ธันยวัชร์ สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง 2ธุรกิจ Outsource 100 ล้าน Shipyours และ OF Messenger

  
 

 

เกริ่นนำ

อ.ธันยวัชร์ : ท่านผู้ชมครับ ณ ขณะนี้ ธุรกิจออนไลน์กำลังมาแรง แล้วก็ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์ด้วยนะครับ ไม่ว่าจะช่วยเป็นแอดมินเว็บไซต์ หรือ แอดมินแฟนเพจ
ถ้าท่านผู้ชมทำธุรกิจออนไลน์ แล้วมีสินค้าปริมาณมาก แล้วเราไม่สะดวกในการสต็อคสินค้า แพ็คสินค้า นำสินค้าไปส่ง ตอนนี้มีบริษัทที่เป็นคลังสินค้าออนไลน์ รับสต๊อก แล้วก็นำสินค้าที่เป็นคำสั่งซื้อให้คนนำใส่กล่อง แล้วก็นำไปส่งไปรษณีย์ ช่วย outsource ในสิ่งที่ท่านอาจจะไม่สะดวกได้   ชื่อว่า Shipyours วันนี้ผมนั่งอยู่กับคุณกอสิน 1 ในผู้ก่อตั้ง

อ.ธันยวัชร์ : สวัสดีครับ คุณกอสิน ช่วยเล่าประวัติคุณหน่อยสิครับ

 

 สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง ธุรกิจเอาท์ซอร์ส OF Messenger และ Shipyours

 
ชีวิตวัยเด็ก

กอสิน : ผมเกิดที่ต่างจังหวัดครับ ที่นครศรีธรรมราช เป็นครอบครัวคนจีนอยู่กันหลายคน ทั้งคุณน้า คุณป้า คุณยายอยู่ด้วยกันครับ ทีแรกเราก็เข้าใจว่าครอบครัวเรามีฐานะ แต่พอถึงจังหวะหนึ่ง คือตอนปี 2540 ธุรกิจอุปกรณ์ตัดไฟของคุณพ่อก็เหมือนสั่นคลอน เราก็ยังช่วยอะไรไม่ได้  เพราะตอนนั้นผมอายุ 14 ปีเท่านั้น ก็คิดแค่ว่าบ้านเราไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นโตขึ้นผมต้องหาวิธีการทำให้มันดีกว่านี้ พอหลังจากนั้นก็ได้เข้ามหาวิทยาลัย 

อ.ธันยวัชร์ : เรียนคณะไหน

กอสิน : เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ลาดกระบัง เอกแมคคาทรอนิกส์ (Mechatronics Engineering) เป็นภาควิชาที่จริงๆ ผลิตบุคลากรที่มาสำหรับสร้างหุ่นยนต์ครับ แต่ว่าตอนที่เราเรียนมหา’ลัย ตอนนั้นเราก็มีความคิดแล้วว่าเราอยากจะช่วยที่บ้าน และตอนนั้นก็มีคนชวนไปทำงานขายตรง ตอนเริ่มทำแรกๆ ก็อยากเป็นเพชรดาวอังคารอะไรของเขานะครับ
และ ตอนนั้นมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก) ผมก็อ่านแล้ว ผมก็รู้สึกว่าทางที่ถ้าจะทำธุรกิจอยากจะเป็น B นะ
ในหนังสือมันก็จะบอกว่าเป็น E, S, B, I  คือ  B  เป็น Business owner ก็คือ ประกอบกิจการเป็นของตัวเอง พอเรียนจบเราก็อยากเป็น  B  นะ

อ.ธันยวัชร์ : หมายถึงว่าเราอยากเป็นเจ้าของกิจการตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย

กอสิน : ใช่ครับอาจารย์

อ.ธันยวัชร์ : ที่คุณเป็น เอ็มแอลเอ็ม (MLM) ก็ตั้งแต่ที่เรียนมหาวิทยาลัยใช่ไหมครับ

กอสิน : ตั้งแต่มหาวิทยาลัยเลยครับ พอเรียนจบก็อยากเป็น Business owner ตามที่หนังสือบอก

 

กอสินแนะนำตัวและเล่าถึงชีวิตวัยเด็ก ก่่อนเริ่มธุรกิจ Outsorce


จะเริ่มต้นการเป็น "เจ้าของธุรกิจ" ได้อย่างไร?

กอสิน : เอาหนังสือ 5 เล่มมาอ่านมันมีอยู่บทหนึ่งตอนที่คนเขียนหนังสือเขาไปหาพ่อรวยของ โรเบิร์ต คิโยซากิ ไปหาพ่อเขา ตอนที่เขาเรียน
จบแล้ว เขาไปขอทำธุรกิจของพ่อรวยเขา พ่อรวยเขาไม่ให้ทำ บอกว่าให้ไปทำงานหาประสบการณ์ก่อน ผมเลยเข้าใจว่า ผมต้องไปหาประสบการณ์ก่อน

เรารู้แล้วว่าต้องไปทำงานประจำ แต่ว่าเราไม่รู้ว่าควรจะเลือกอาชีพไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกลักษณะบริษัทแบบไหน ในหนังสือบอกว่า คุณต้องมีพี่เลี้ยง!!

 

คำแนะนำจาก "เจ้าของธุรกิจ" 1,000 ล้าน

กอสิน : ผมเลยไปถามคุณพ่อว่า มีเพื่อนพ่อคนไหนบ้างไหม ที่ประกอบธุรกิจ  แล้วตอนนี้มียอดขาย 100 ล้าน 1,000 ล้านบ้าง คุณพ่อก็แนะนำมาท่านหนึ่งครับ ชื่อคุณอา ประสงค์ เพิ่มอริยะวงศ์ คุณอาท่านนี้เป็นเจ้าของบริษัท ไทยคอมโพสิท ที่ทำท่อร้อยสายไฟฟ้า ผมก็ถามตรงๆ
เลยว่า ผมรู้แล้วว่า ผมต้องเป็นพนักงานประจำก่อน แต่ผมไม่รู้ว่าผมควรจะเลือกสายอาชีพไหน เขาก็บอกว่า ผมควรจะเลือกที่จะเป็น พนักงานขาย เพราะพนักงานขายจะทำให้ผมได้มีโอกาส พบกับผู้คน แล้วถ้าโชคดีผมอาจจะมีเงินทุนด้วย

อ.ธันยวัชร์ : คอมมิสชันเยอะ

กอสิน : ใช่ครับ พอเขาบอกอย่างนั้น ผมก็ยังมีคำถามต่อครับแล้ว ผมจะไปทำงานในบริษัทอะไรดี
คุณอาประสงค์ก็บอกว่า ทำงานในบริษัทอะไรก็ได้ แต่อย่าเอาเงินมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ ให้คิดว่าสิ่งที่เราไปทำในบริษัทนั้นจะเป็นประโยชน์กับเราในอนาคตข้างหน้า ผมก็ไปสมัครงาน ก็ได้เป็นพนักงานขายของบริษัทขาย GPS ติดรถยนต์ ผมเลือกบริษัทที่เพิ่งก่อตั้ง ผมเข้าไปเป็นพนักงานไม่เกินคนที่ 10 เริ่มทำงานโดยไม่คิดเรื่องเงินเดือนเป็นหลักเงินก็ไม่ค่อยจะพอใช้  ก็เลยคิดว่าเราควรจะหา อะไรมาทำเพิ่ม

อ.ธันยวัชร์ : หารายได้เสริม

คุณกอสินเริ่มทำงานโดยเป็นพนักงานขายให้กับบริษัทขาย GPS แห่งหนึ่ง

 

เริ่มขาย อุปกรณ์ป้องกันตัวผู้หญิง ออนไลน์

กอสิน : เพิ่มรายได้เสริม ซึ่งตอนนั้นผมขายสเปรย์พริกไทยอาจารย์รู้จักไหมครับ ที่ไว้ป้องกันตัว

อ.ธันยวัชร์ : รู้จัก มันผิดกฎหมายนะ

กอสิน : ใช่ครับ แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้รวมถึงตำรวจ ทหาร ก็ไม่มีใครรู้ว่าผิดกฎหมายทุกครั้งเวลาที่คนรู้ว่าผมมีสเปรย์พริกไทยก็จะมีคนฝากซื้อครับ ผมก็ไปซื้อห้างเดิมที่ผมเคยซื้อครับ แต่ตอนช่วงหลังเริ่มซื้อ  3 ขวด 5 ขวด 10 ขวด มันก็เริ่มเยอะ

อ.ธันยวัชร์ : เอามาขายดีกว่า

กอสิน : ผมคิดว่าเอามาขายก็คงจะดีก็เอามาขาย มีเงินลงทุน 1,000  กว่าบาท ขายในอินเตอร์เน็ตโพสต์ขายใน สนุกดอทคอม ตลาดดอทคอมครับ โพสต์ไปก็ขายได้ แต่มันเหนื่อยตรงที่ว่าผมต้องมานั่งโพสต์ใหม่ทุกวัน เพราะว่าโพสต์ผมมันตกไปอยู่ด้านล่าง ผมเลยคิดว่าผมต้องทำเว็บไซต์แล้วล่ะ ผมเลยไปเรียนการทำเว็บไซต์ก็ทำเป็นเสร็จแล้วยอดขายก็ยังไม่เยอะพอครับ มีคนบอกถ้าทำให้อยู่ในลำดับต้นๆ ของ Google  ได้ยอดขายก็จะเยอะ

อ.ธันยวัชร์ : SEO (Search engine optimization)

กอสิน : ผมก็ไปเรียนครับอาจารย์ ก็เลยทำเป็น ยอดขายก็เริ่มเยอะ  เริ่มมีคนติดตาม  
มีอยู่ครั้งหนึ่งครับอาจารย์ไปออกรายการทีวีแล้วยอดขายเพิ่มขึ้น จากปกติแล้วผมมีสัก 1-5 ขวดต่อวัน กลายเป็น 450 ขวด
ผมก็มานึกถึงปัญหาอีกอย่างหนึ่ง พอเริ่มอยู่ตัวพอเริ่มขายได้ในทุกๆ วันผมต้องมานั่งแพ็คของ แล้วต้องไปต่อคิวไปรษณีย์

อ. ธันยวัชร์ : 450 ขวดใช่ไหม

 

 คุณกอสิน เจ้าของธุรกิจ เอาท์ซอร์ส เริ่มขายอุปกรณ์ป้องกันตัวผู้หญิง หลังจากเป็นพนักงานขายมาสักพัก

 

ไอเดียธุรกิจ เอาท์ซอร์ส เริ่มจาก "ปัญหา"

กอสิน : ตอนนี้ ผมมีออเดอร์ 450ขวด เป็นปัญหาใหม่
แต่ในภาวะปกติ ผมก็ต้องเสียเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ในการแพ็คของ และส่งไปรษณีย์อยู่แล้วครับ ผมต้องแพ็คแล้วไปส่งซึ่งเสียเวลาทุกวันครับ  แล้วผมก็มานึกได้ว่ายิ่งมาตอนนี้ ขายได้เยอะๆ ผมก็ดูแลไม่ได้
จึงเริ่มมีคำถามในใจว่า มันน่าจะดีนะ ถ้ามีใครเอาของไปไว้ที่บ้านเขาเลย แล้วแพ็คของให้ผมแล้วก็ไปส่งไปรษณีย์ให้ด้วย  แล้วคิดค่าบริการไปเลย  40-50  บาท ต่อออเดอร์

อ.ธันยวัชร์ : เอาท์ซอร์สด้านนี้

กอสิน : ใช่ครับ คิดว่าตอนนั้นถ้ามีคนทำผมก็จะใช้บริการ แต่หาตอนนั้นไม่มีใครทำเลยครับ

อ.ธันยวัชร์ : ธุรกิจตอนนั้นยังไม่เป็นที่นิยม คุณขายได้เยอะ เพราะคุณออกรายการทีวี แล้วถ้าคุณไม่ออกรายการทีวี อย่างมากคุณก็แค่ 10 ขวด

กอสิน : ใช่ครับ ยอดขายเยอะ แล้วก็มีรายได้เป็นหลักหมื่นต่อเดือนครับอาจารย์ ก็เลยย่ามใจลาออกจากงาน

อ.ธันยวัชร์ : แต่ว่าทีวีมันอยู่ได้ประมาณเดือนเดียวเองนะ แล้วมันก็จะลดลง

กอสิน : ใช่ครับ แต่ว่ายอดขายที่มี 3-5 ขวดต่อวัน เป็นยอดขายที่เลี้ยงตัวเองได้พอสมควรครับ เดือนละ 150 ขวดก็อยู่ได้
มันก็จะมีขึ้นๆ ลงๆ บ้างแต่มาตรฐานไม่ต่ำกว่า  3-5 ขวดครับ เลี้ยงคน  1  คนได้สบาย ๆ ครับ

อ.ธันยวัชร์ : ก็คือตัวเรา

กอสิน : ครับ พอลาออกแล้วก็เริ่มหาลูกจ้างมาแต่จ้างเป็น Part time ครับ

อ. ธันยวัชร์ : อ๋อ ตอนที่คุณขายสเปย์พริกไทย คุณก็ยังทำงานประจำเป็น "พนักงานขาย" ด้วยใช่ไหม

กอสิน : ใช่ครับ

 ประสบปัญหาการขายอุปกรณ์ป้องกันตัวผู้หญิง และ เริ่มไอเดียการทำธุรกิจ Outsource

 

ประสบปัญหา กับ การขายอุปกรณ์ป้องกันตัว ผู้หญิง 

อ.ธันยวัชร์ : ตอนนั้น ลาออกจากพนักงานขาย มาขายสเปย์พริกไทยเต็มตัวเลยใช่ไหม

กอสิน : ใช่ครับ  ก็ออกมาได้แค่สักเดือน สองเดือนครับ เราก็มีเวลาได้ค้นคว้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต แล้วเราก็มารู้ว่าสเปรย์พริกไทยที่เราขายมา  2-3  ปี มันผิดกฎหมาย
ก่อนขายผมได้โทรไปถามทางตำรวจและทหารแล้วนะครับ ว่าผิดกฏหมายไหม 
แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่ามันผิดกฏหมาย 
ผมก็เลยรีบโทรไปที่อย. ทางอย. แจ้งว่าจริง สเปย์พริกไทยเป็นสิ่งผิดกฏหมาย 
อ้าว...แล้วถ้ามันผิดกฎหมาย ผมก็ควรต้องหยุดขาย แต่ผมก็คุย กับ อย. ผมคิดว่ามันไม่น่าจะถูกนะ ประเทศไทยอาชญากรรมมันยังเยอะอยู่ แล้วตำรวจก็ไม่ได้ดูแลคนเราได้ดีมากนัก  การที่คุณห้ามทุกอย่างมันไม่น่าจะถูกต้อง

อ.ธันยวัชร์ : แล้วทาง อ.ย. ว่าอย่างไรบ้าง

กอสิน : อย. เขาก็เปิดกว้างนะครับ เขาก็บอกว่า คุณก็ทำเรื่องเข้ามาสิ ทำจดหมายเข้ามา บอกว่าคุณไม่เห็นด้วยกับกฎหมายที่เรามี ผมก็ทำเรื่องเข้าไป มีการจัดประชุมเสวนา มีทหารกับตำรวจมากันเต็ม 10-20 คน ก็ไปประชุมกันอยู่ 2-3 ครั้งครับผมรู้สึกว่าประชุมไปก็ไม่เห็นจะมีกฎหมายอะไรเปลี่ยนแปลงครับ
ผมเลยคิดว่าถ้าจะเดินทางนี้ต่อไม่น่าจะหาเลี้ยงใครได้ ตอนนั้นลูกน้องก็ลาออกหมดแล้ว

 

คุณกอสิน ผู้ก่อตั้งธุรกิจเอาท์ซอร์ส ร่วมประชุมเสวนาเรื่องอุปกรณ์ป้องตัวผู้หญิงเป็นสิ่งผิดกฏหมาย

 
จากปัญหา สู่ธุรกิจ เอาท์ซอร์ส แมสเซ็นเจอร์ รับส่งเอกสาร 

กอสิน : งั้น เราก็ต้องเริ่มทำอะไรใหม่ พอมีเวลาว่างผมก็เริ่มคุยกับเพื่อนเก่า คุยกับเจ้านายเก่า เจ้านายเก่าก็บอกว่ามีธุรกิจอย่างหนึ่งน่าสนใจ ทำเอาท์ซอร์สสิ อยากทำด้วยกันไหม พี่เคยทำธุรกิจมาน่าจะให้คำปรึกษาได้ ก็เลยจับมือกันว่า จะทำเอาท์ซอร์ส  
เอาท์ซอร์ส ในความหมายนี้คือ ใครไม่อยากทำอะไรเอง เอามาให้เราทำ เราจะเป็นมืออาชีพในการเซอร์วิสนั้นไปเลย
ทำให้เขาไป เช่น รปภ. แม่บ้าน แมสเซ็นเจอร์ คลังสินค้าออนไลน์ ที่เก็บของ แพ็คของให้ ก็จะเป็นเอาท์ซอร์ส ลักษณะนี้ครับ ทีแรกคุยกัน ผมก็อยากทำคลังสินค้าออนไลน์เลยครับ แต่ว่าตอนนั้น มันไม่แน่นอนครับ

อ.ธันยวัชร์ : ตอนนั้น E – commerce ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักด้วย

อสิน : เรายังไม่เห็นความต้องการ ณ ขณะนั้น แต่ที่เห็นแน่ๆ คือ แมสเซ็นเจอร์ เราเห็นเต็มถนนเลยครับ
ผมก็เริ่มด้วยแมสเซ็นเจอร์ และเริ่มตั้งบริษัทแมสเซ็นเจอร์ เอาความรู้ที่เคยทำกับสเปรย์พริกไทย มาทำตัวเว็บไซต์ ก็ขายงานได้ เริ่มจากเล็กๆ มีพนักงานคนเดียวครับ

อ.ธันยวัชร์ : ชื่อบริษัทอะไรครับ

กอสิน : OF Messenger ครับ ก็เริ่มเจริญเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ สิ่งที่เราเคยขาด ตอนนี้เราก็มี เราก็เริ่มมีที่ปรึกษา มีทีมงาน เพราะว่าเราอยู่มานานครับ

อ.ธันยวัชร์ : ตามตำราแหละครับ

กอสิน : ใช่ครับ สิ่งที่เราเคยขาด 4 อย่างที่ในหนังสือเขาบอกว่าต้องมีผมก็เริ่มสะสมมา

 

 เริ่มทำ ธุรกิจ Outsource แมสเซ็นเตอร์เป็นอย่างแรก ชื่อ OF messenger

 

เริ่มต้น จาก "ศูนย์" สู่ รายได้ "100ล้าน"

กอสิน : จนตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว ปีนี้ยอดขายน่าจะแตะ 100 ล้านบาทแล้ว

อ.ธันยวัชร์ : จริงเหรอ บริษัทคุณน่ะเหรอ

กอสิน : ใช่ครับ ปีนี้น่าจะแตะ 100 ล้านบาท เป็นปีแรกครับ

อ. ธันยวัชร์ : ท่านผู้ชมครับ  ผมคุยกับหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ครอบครัวเขาร่ำรวยในช่วงก่อนปี 40 และเมื่อธุรกิจเจอปี 40 เข้าความมั่งคั่งก็ลดลงแต่ดีเอ็นเอของคนที่อยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยมาก่อน  ก็ฝังอยู่ตลอดว่าฉันจะต้องร่ำรวย ก็ไปอ่านหนังสือชุดแห่งความร่ำรวย ที่ชื่อว่า พ่อรวยสอนลูก ความคิดอยากจะรวยอันนี้ในหมู่ของ Gen Y ก็ยังอยู่เสมอ ก็ดูว่าฉันจะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ 1 2 3 4  มีตามที่ว่ามีทุน  พนักงาน  ที่ปรึกษาไปทำธุรกิจขายสเปรย์พริกไทยจนแบบขายดี ไปออกรายการทีวี พอออกจากงานมาจริงๆ เพิ่งจะรู้ว่าสเปรย์พริกไทยที่ทำไป  เป็นสิ่งผิดกฎหมาย  ก็เลยมาทำธุรกิจหนึ่ง  ซึ่งเรียกว่าได้รับความนิยมกันทั่วโลกเลยครับ
ธุรกิจที่เรียกว่า Outsourcing  รับทำส่วนหนึ่งของธุรกิจที่คนไม่อยากจะทำเพราะถ้าจ้างคนทำประจำแล้ว เงินเดือนก็จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ  จนกระทั่งรับไม่ไหวซึ่งมีพวก แม่บ้าน คนขับรถ รปภ. แมสเซ็นเจอร์ เขาก็เลยมารีโฟกัสทำธุรกิจแมสเซ็นเจอร์ ใช่ไหมครับ

อ.ธันยวัชร์ : เป็นไงบ้างธุรกิจนี้ มีใครทำไหมในเวลานั้น

กอสิน : ตอนนั้นเยอะเลยครับ เป็น 10 เจ้า เลย

อ.ธันยวัชร์ : แล้วทำไมคุณถึงขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ได้

กอสิน : ตอนนั้นเข้ามาในตลาดช่วงแรก เราไม่มีอะไรเลยครับ ไม่มีต้นทุน ไม่มีชื่อเสียง สิ่งเดียวที่เราจะมีได้คือ ราคาที่ถูกกว่า  ก็เริ่มมาลงด้วยราคาที่ถูกกว่าชาวบ้านเขาครับ

อ.ธันยวัชร์:  รับทำอะไรบ้างครับ

กอสิน : แมสเซ็นเจอร์ประจำเลยครับ  ส่งแมสเซ็นเจอร์  1  คนไปประจำออฟฟิศลูกค้าครับ

อ.ธันยวัชร์ : คุณเป็นคนจัดหาแมสเซ็นเจอร์ แล้วแมสเซ็นเจอร์คนนั้นมีรถจักรยานยนต์เป็นของเขาเอง 
คุณทำหน้าที่คือเป็นผู้รวบรวบ แมสเซ็นเจอร์มาอยู่ในเครือข่ายของคุณ
หลังจากนั้น คุณก็ไปติดต่อลูกค้าแล้วก็ลงเว็บไซต์ แล้วพอลูกค้าต้องการใช้บริการ คุณก็ส่งคนไปประจำ แต่ว่าแมสเซ็นเจอร์รับเงินเดือนจากเราใช่ไหม

กอสิน : ใช่ครับ

 

เคล็ดลับความสำเร็จ ของธุรกิจ Outsource

กอสิน : ลูกค้ามาพร้อมพนักงาน คือ ธุรกิจเอาท์ซอร์สขยายได้ เพราะว่ามีคนเข้ามาอยู่กับเรา แล้วคนที่อยู่กับเรา เพราะเขาอยากทำงานกับเรา  เขาเลยให้บริการลูกค้าเราอย่างดี ผมขายงานให้ลูกค้าราคาตอนนั้น 10,000  บาท ต่อเดือน ลูกค้าได้พนักงาน 1 คนไปประจำครับ

อ.ธันยวัชร์ : รถจักรยานยนต์ของใคร

กอสิน : รถจักยานยนต์ของพนักงานครับ ลูกค้าจ่ายให้เรา 10,000 บาท เราจ่ายให้พนักงาน 8,500 บาท 1,500 บาท เป็นค่าบริหารจัดการครับ

อ.ธันยวัชร์ : ถ้าอย่างนั้นคุณต้องมีวอลลุ่มสูง แล้วราคา  10,000  บาท คือราคาที่คุณชาร์ตหรือตลาดชาร์ต

กอสิน : ราคาตลาดตอนนั้นอยู่ที่ 11,000 – 12,000 บาทครับ

อ. ธันยวัชร์ : คุณตัดราคาตลาด 1,000 – 2,000 บาท

กอสิน : ใช่ครับ  ตอนแรกคิดแผนได้แบบนั้นครับอาจารย์

อ. ธันยวัชร์ : Pricing War?

กอสิน : ใช่ครับ ลงเข้าไปเสร็จ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพอทำงานไป กลายเป็นว่าเด็กเราก็ไม่มีคุณภาพ เพราะเด็กเขาก็ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ค่อยดีครับ

 

ธุรกิจ Outsource OF Messenger มีรายได้กว่า 100 ล้าน 

OF Messenger เด็กดี ทุกคน

กอสิน : พอสักพักเราเริ่มจับใจความได้ว่า  "เด็กดี เป็นสิ่งสำคัญ"
พอเราได้ลูกค้ามา แต่สักพักลูกค้ายกเลิก มันก็ไม่ก่อประโยชน์อะไร ก็เลยเปลี่ยนแผนปรับราคาเพิ่มขึ้น ตอนแรกเท่าตลาด  ตอนหลังสูงกว่าตลาด เปอร์เซ็นต์อาจจะเท่าเดิมแต่ Margin มันเยอะขึ้นครับ เราสามารถจ้างทีมงานมาดูแล Backup ได้ดีขึ้นครับ

ปรากฏว่ากลับตาลปัด ทีแรกคิดว่าเราปรับราคาลูกค้าจะหายไป ลูกค้าหายไปแค่ส่วนหนึ่ง แต่ได้ลูกค้าใหม่มาเยอะเลยครับ

อ.ธันยวัชร์ : ทำไมครับ

กอสิน : ผมเข้าใจว่า การปรับเงินเดือนให้พนักงาน แล้วมันก็ปรับให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พนักงานก็จะเรียกเพื่อนเข้ามาทำงานร่วมกันกับเรา

อ.ธันยวัชร์ : เจ้าอื่นอาจจะไม่ปรับขึ้นใช่ไหมครับ แล้วพอไม่ปรับเงินเดือนขึ้น คนก็ไม่พอใจแล้วก็ให้บริการลูกค้าไม่ดี ลูกค้าก็ยกเลิก ส่วนพนักงานพอรู้ว่าคุณปรับเงินเดือนขึ้นมา คนที่จากบริษัทที่ไม่ปรับเงินเดือนขึ้นก็มาอยู่กับคุณ

กอสิน : ใช่ครับ พอเราเริ่มดีขึ้นเราก็เริ่มจัดระเบียบการอมรมพนักงาน ให้อยู่ในระเบียบที่ถูกต้องมากขึ้น ทุกวันเสาร์เราก็เรียกพนักงานเข้ามาอบรม เราก็ส่งหัวหน้าทีมไปเยี่ยมลูกค้าเพื่อที่จะได้ฟัง Feedback พอได้ผลตอบรับอะไรมา เราก็จะมาอบรมแมสเซ็นเจอร์ต่อไปว่าจะทำอย่างไรบ้าง  ก็ค่อยๆ สะสมประสบการณ์มา 8 ปี แล้วครับ

อ.ธันยวัชร์ : 8 ปี ก็เกือบ 100 ล้านบาท

 มีการอบรมแมสเซ็นเจอร์ทุก ๆ วันเสาร์สิ้นเดือน

ที่มาของธุรกิจ Shipyours

อ. ธันยวัชร์ : แล้วมาทำ 
Shipyours ได้อย่างไร

กอสิน : ตั้งแต่แรก เราก็อยากทำบริการคลังสินค้าออนไลน์ อยู่แล้ว
พอผมตั้งแมสเซ็นเจอร์ได้ประมาณสัก 3 ปี ผมก็เริ่มทดลองเพราะผมมีทีมงานแล้ว ผมเริ่มทดลองธุรกิจคลังสินค้าออนไลน์ ว่ามันเกิดขึ้นได้จริงหรือเปล่า ผมก็ทำเหมือนเดิม โพสต์ในอินเตอร์เน็ต เราทำเว็บไซต์เป็นแล้ว เราเขียนว่าเราทำอะไรได้บ้าง เราทำอะไรเก่ง เราจะทำอะไรให้เขา คิดค่าบริการเท่าไหร่

อ. ธันยวัชร์ : ก็คือ คุณรับจ้างส่งของ แพ็คของ ดูแลสต๊อกพูดง่ายๆ ก็ Logistic นั่นแหละ คือขนส่ง จัดเก็บ แล้วนำมากระจายออก

กอสิน : คือ นำไปส่งไปรษณีย์ให้เรียบร้อย แจ้งไว้ในเว็บไซต์ก็มีคนเข้ามาติดต่อจริงๆ ครับ  ทั้งๆ ที่ไม่ได้จ่ายค่าโฆษณาอะไรให้ใคร พอลูกค้าติดต่อเข้ามา เราก็เริ่มได้มีลูกค้าพอเรามีลูกค้า เราก็เริ่มเจอปัญหา ของไม่ตรง ส่งผิด  ระเบียบการแพ็คไม่สวยเราก็เริ่มมาปรับปรุงกระบวนการทำงานเริ่มมีปัญหาใบนำเข้า ใบส่งออก การเช็กสต๊อกระเบียบการเทรนนิ่งครับ
ต้องบอกว่าวันแรกเราไม่มีอะไรเลย เราเอาปัญหาเข้ามาในระบบก่อนแล้วค่อยหาวิธีการแก้ไขปัญหาครับ
พอเริ่มลองระบบได้ประมาณสัก  2  ปีก็ปรากฏว่ามีคู่แข่งโผล่เข้ามาในตลาดชื่อ
Shipyours ครับ

อ. ธันยวัชร์ : แล้วของคุณชื่ออะไร

กอสิน : ผมใช้ชื่อ OF wearhouse ครับ ผมก็เลยนัดคุยกับเขา โทรไปคุย ชวนไปกินข้าวครับ  ก็ได้กินข้าวร่วมกันแล้วได้คุยกันครับ  น้องเขาชื่อคุณอานันท์ น้องเขาเป็นคนที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งธุรกิจยังไม่มีอะไรเลยเขาไม่มีทีมงาน  คือ ทุกอย่างเขาทำเอง
เขาจบการตลาด เขาทำเกี่ยวกับสื่อออกมาค่อนข้างดี

อ. ธันยวัชร์  :  รู้วิธีการใช้สื่อ

กอสิน : ใช่ครับ  พอได้คุยกันก็รู้ว่าสิ่งที่เขาขาดคือสิ่งที่เรามีทั้งหมด

อ. ธันยวัชร์  :  ใช่  ก็คือเครือข่าย

กอสิน : ใช่ครับผมมีทีมงาน  มีที่ปรึกษา  ผมมีความรู้เรื่องบัญชีการตลาดครบหมดเลยครับ
แต่อย่างที่ผมบอกผมทำ OF wearhouse นี้มา  2  ปีแล้วสิ่งที่ผมขาด คือ เวลาผมคิดอะไร  เสร็จผมไม่สามารถโฟกัสมันได้เพราะผมมี  2  ธุรกิจ  เพราะฉะนั้นถ้ามีใครสักคนมาถือธงนำให้ แล้วผม Backup ข้างหลังให้ครับ 
ผมว่ามันน่าจะดีครับ ก็เลยจับมือ ร่วมกันตั้งบริษัทใหม่ชื่อ 
Shipyours ขึ้นมา

 

แนะนำ คลังสินค้าออนไลน์  [ Shipyours : ขายของออนไลน์ ไม่ต้องส่ง ]

 

คลังสินค้าออนไลน์  Shipyours ทำอะไร

กอสิน : Shipyours ก็คือ ถ้าคุณขายของออนไลน์อยู่นะครับ ก็เอาของมาไว้ที่เรา หน้าที่ของคลังสินค้าออนไลน์ก็ คือ เราจะดูแลสต๊อกให้
คุณสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ ได้ว่าของคุณมีของเท่าไหร่ครับ ทุกเช้าเวลาคุณมีออเดอร์ คุณแค่รวบรวมมัน คุณไม่ต้องไปนั่งแพ็คเองแล้ว แค่คุณรวบรวมออเดอร์ แล้วพิมพ์ใส่แบบฟอร์ม ส่งมาให้ 
Shipyours ว่าคุณจะให้เราส่งของไปที่ไหน ส่งให้ใคร ชื่อผู้รับของ ชื่ออะไร ให้ผมจัดส่งด้วยวิธีไหน แมสเซ็นเจอร์ไหม หรือ  EMS  หรือเป็นอะไรก็ส่งบอกมาครับ  พอบอกมาเสร็จแล้ว ทางผมก็จะมีการตัดรอบการจัดส่ง ทุกเที่ยงของวัน แล้วรวบรวมของทั้งหมดมาแพ็คให้ตามคำสั่งที่คุณต้องการ

อ. ธันยวัชร์ : แล้วคุณก็วาง Software ไว้แล้วใช่ไหม ในการรับออเดอร์ ในการดู Category ของลูกค้าแต่ละคน แล้วคุณก็แยกแยะออกมา แล้วก็มีพนักงาน รับคำสั่งจากออนไลน์ ไปเป็นออฟไลน์ พอเข้าไปกดดูคลังสินค้า อ๋อ อันนี้อยู่ในแวร์เฮาส์นั้น แวร์เฮาส์นี้
มีพนักงานเดินไปแล้วเอาเลเบลไปติด คนนี้สั่งงานมาเราเอาเลเบลไปติดเสร็จ แพ็คใส่กล่องแล้วก็นำไปส่งไปรษณีย์

กอสิน : ถูกต้องครับ สั่งให้เสร็จ พอตอนเย็นลูกค้ามีหน้าที่อย่างเดียวครับ คือ กลับมาที่ระบบ แล้วล็อกอิน เข้าไปดูว่าออเดอร์ที่สั่งมาเมื่อเช้าเรียบร้อยหรือยัง
ซึ่งข้อดี คือ ทุกอย่างมันออนไลน์หมดแล้ว เพราะฉะนั้นลูกค้าไม่ติดกับสถานที่ แค่สั่งของผ่านเว็บไซต์ก็พอ

 

เอาท์ซอร์ส Shipyours คลังสินค้าออนไลน์ ที่บริการครบครัน ทั้ง บริการจัดเจ็บ แพ็คของ และส่งสินค้า

 

Shipyours  เหนือกว่าเจ้าอื่น อย่างไร

อ.ธันยวัชร์ : Shipyours เหนือกว่าคนอื่นยังไง  ในธุรกิจเดียวกัน

กอสิน : ผมว่าตอนนี้ Branding เราแข็งที่สุดในธุรกิจประเภทนี้ครับ แล้วก็ถ้า Backup เรื่อง Management กับเรื่องทีมงาน ดีๆ

อ.ธันยวัชร์ : คุณมีแมสเซ็นเจอร์อยู่แล้ว

กอสิน : ใช่ครับ  คือถ้าเราตีโจทย์เรื่องการขยายเรื่องการตลาดออนไลน์ออกไปให้ดีๆ  มันก็น่าจะครบองค์ประชุมครับ

อ.ธันยวัชร์ : ปัญหาของคุณคือประเภทสินค้าที่คุณจะรับด้วยนะ  คุณต้องไม่รับทุกประเภทนะ ไม่จำเป็นคุณต้องไม่รับบางประเภทที่เป็นสินค้าที่ตายได้  และสินค้าที่มันมีความ sensitive ต่อความเสียหาย เช่น  โน้ตบุ๊ก คุณต้องเลือกบางอันที่เราเชี่ยวชาญ
แล้วคุณคิดราคายังไง


ค่าบริการในการเก็บของกับคลังสินค้าออนไลน์ Shipyours 
 

ค่าบริการ Outsource การจัดเก็บสินค้า

กอสิน : เราคิดตามจริงครับ  เราคิดอยู่ที่ลูกบาศก์เมตรละ 1,000  บาท ต่อเดือนครับ
ค่าจัดเก็บ ผมคิดการจัดเก็บตามปริมาตร ซึ่งโดยทั่วไป ลูกค้าที่มาเก็บสินค้าไว้ จะมีปริมาตรไม่ถึง 1ลูกบาศก์เมตรครับ เช่น 0.1 ลูกบาศก์เมตร
ก็จะจ่ายค่าบริการจัดเก็บอยู่ประมาณหลักร้อยครับ แล้วค่าแพ็คผมคิดเป็นตามค่าแรงเริ่มต้นออเดอร์ที่ 10 บาท

อ.ธันยวัชร์ : กล่องของคุณเองหรือกล่องไปรษณีย์

กอสิน : เป็นกล่องไปรษณีย์แต่ตีแบรนด์ของ Shipyours 
พอเราสั่งเยอะได้ถูกหน่อย ลูกค้าก็ได้ราคาถูกไปด้วย เพราะฉะนั้นเวลายอดขายเพิ่มขึ้น ราคาค่าบริการก็จะสูงขึ้นเช่นกันครับ แต่ถ้ายอดขายเขาลดลง ค่าใช้จ่ายเขาก็จะลดลงเช่นกันครับ มันก็ดีอย่างว่ามันไม่เป็น Fixed cost เหมาะสำหรับ SME ขนาดเล็กๆ อย่างเรา

อ.ธันยวัชร์ : ถ้าผมพิมพ์หนังสือ ผมก็ให้คุณไปแพ็คได้เลยสิ ตารางเมตรละเท่าไหร่นะ

กอสิน : ตารางเมตรละ  1,000  บาทครับ

อ.ธันยวัชร์ : วางหนังสือเล่มเล็กๆ  ได้สักเท่าไหร่

กอสิน : วางได้หลายพันเล่มเลยครับ

อ.ธันยวัชร์ : 1,000  บาทก็โอเค เพราะยังไงผมส่งผมก็ต้องไปไปรษณีย์ส่งอยู่แล้ว 500 เล่ม ผมไปส่งไม่ไหวก็ให้คุณไปเลย

กอสิน : ใช่ครับ

อ.ธันยวัชร์  :  ท่านผู้ชมถ้าทำธุรกิจออนไลน์อยู่ แล้วคิดว่ามันเป็นเรื่องลำบากนักก็ให้ Shipyours ไปจัดการให้ หรือมี Facebook ไหม ชื่อ Facebook อะไร

กอสิน : Shipyours

 

 คุณกอสินพูดปิดรายการ หากใครจะทำธุรกิจ เอาท์ซอร์ส ให้เริ่มทำเลย

 

อยากทำอะไร ทำเลย

อ.ธันยวัชร์  :  คุณกอสินฝากเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ค้าขายของออนไลน์หน่อยครับ

กอสิน : สำหรับคนที่ค้าขายออนไลน์นะครับ หลายๆ  คนชอบคิดว่า การที่จะทำค้าขายออนไลน์ ต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อน  แต่จากประสบการณ์ที่ผมทำ ถ้าเราเตรียมทุกอย่างให้พร้อม แล้วค่อยทำมันจะไม่ได้ทำครับ  เพราะฉะนั้น อยากทำอะไร ทำเลย ครับ 
เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเริ่มง่ายครับ  เริ่มแล้วถ้ามันไม่ถูกใจ เราก็แค่หยุดมัน แล้วก็ไม่ต้องทำต่อครับ  แต่ว่าถ้าเราเริ่มทำแล้วมันไปได้ดีครับ  เดี๋ยวนี้ เราหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้ง่ายครับ ธุรกิจเราก็จะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วครับ

อ.ธันยวัชร์  :  ท่านผู้ชมครับโลกทุกวันนี้  ก็เป็นโลกของการค้าขายออนไลน์ E - Commerce ผมเองจะพิมพ์หนังสือ ผมก็มีปัญหาเรื่องเวลา ผมขายหนังสือทางออนไลน์จะหาใครมาส่ง ผมก็คิดถึง Shipyours อันนี้ป็นธุรกิจที่มาพร้อมกับภาวะการทำธุรกิจปัจจุบัน  เป็นธุรกิจแห่งอนาคตนเป็นเอาท์ซอร์สที่ทุกคนต้องการครับ

 

 

กลยุทธ์ธุรกิจ : Shipyours คลังสินค้าออนไลน์

บริการจัดเก็บ และ แพ็คสินค้า

 

ทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้การสร้างสรรค์
โดย กอสิน
 Outsourcing Factory 21 กันยายน 2558

  Shipyours : First e-Fulfillment in Thailand    

  

สนใจบริการ Shipyours 
กรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

 

 

 

 




ประวัติการออกสื่อมวลชน

K Expert (18/8/2559)
Bright TV (5/11/2559)
รายการ SMEsที่รัก (28/09/2558)
Kbank Digital Platform (8/8/2558)
SME ตีแตก (4/4/2558)
หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์@Weekly (07-13/02/2558)
หนังสือพิมพ์ Post Today (12/01/2558)
รายการ Life&Real (07/12/2557)
นิตยสาร Make Money (1/7/2554)
หนังสือพิมพ์ ประชาชาติ ธุรกิจ (24/9/2552)